Page not found – MTECH Thailand

ปัญหา An unrecoverable error has occurred. The program will now be terminated

เนื่องจากพบว่าหลายบริษัทมีแผนที่จะอัพเดต Revit เป็น version 2025 โดยจากการติดตั้งกายในบริษัท ไม่พบปัญหาในการใช้งาน แต่ผู้ใช้งานหลายท่านพบปัญหาเมื่อติดตั้งและ Run Revit 2025 แล้วพบ Error

MTECH จึงได้รวมวิธีการแก้ไขปัญหามาให้บางส่วน ซึ่ง MTECH ได้ทดลองแก้ไขปัญหาเบื้องต้น แต่บางวิธียังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด และอาจจะต้องรอ Patch update ในภายหลัง

จากข้อมูลของ Autodesk อัพเดตล่าสุด 4 เมษายน 2567 พบว่าเกิดจาก การไม่ได้ติดตั้งหรือติดตั้งไม่สมบูรณ์

• Microsoft .NET Desktop Runtime 8.0.0

• Microsoft ASP.NET Core Runtime 8.0.0

วิธีแก้ไขปัญหาที่ Autodesk แนะนำคือการติดตั้งใหม่ของ .Net โดย

1. ไปที่ Folder ติดตั้งโปรแกรม

2. ค้นหาไปที่ \3rdParty\x64 folder

3. ติดตั้ง windowsdesktop-runtime-8.0.0-win-x64.exe จาก Folder \dotNet\80

4. ติดตั้ง aspnetcore-runtime-8.0.0-win-x64.exe จาก Folder \aspNetCore\80

และในบางกรณีที่วิธีแรกไม่สามารถแก้ไขได้ อาจจะเป็นเพราะ Add on จาก 3rd Party ชื่อ Environment for Revit ไม่รองรับ ดังนั้นการแก้ไขในเบื้องต้น จะต้อง Disable add on ก่อนชั่วคราว จนกว่าจะอัพเดต add on จาก 3rd party

โดยใช้วิธีการ

1. ไปที่ Folder C:\ProgramData\Autodesk\Revit\Addins\2025

2. ย้ายไฟล์ Environment.addin ไปที่ตำแหน่งอื่น

ที่มา:

– https://www.autodesk.com/…/Revit-2025-crashes-on…

– https://archintelligence.com/…/https-archintelligence…/

AutoCAD 2025 is now available

การปรับปรุงการใช้ Hatchesการปรับปรุงการใช้ Hatches

คำสั่ง HATCH ในปัจจุบันมีตัวเลือกที่สะดวกในการวาด hatches โดยไม่ต้องมีรูปร่างขอบเขตที่มีอยู่ก่อน

ตอนนี้คุณสามารถเลือกระหว่างการสร้างรูปร่างเต็มหรือการใส่ hatch ตามเส้นทางที่ระบุโดยใช้ตัวเลือกวาด polyline, circle หรือ rectangle

คำสั่งที่อัพเดท

1. HATCH – เติมพื้นที่ที่มีรูปร่างที่ปิดหรือวัตถุที่เลือกด้วยลวดลาย hatch pattern, solid fill, หรือ gradient fill

ตัวแปรระบบใหม่
1. HPDRAWMODE – ควบคุมโหมดการวาดที่ใช้เมื่อกำหนดเขตของ hatches หรือ fills
2. HPPATHALIGNMENT – ระบุการจัดวางของเส้นทางที่วาดใหม่เพื่อให้ hatch หรือ fills
3. HPPATHWIDTH – ระบุความกว้างของเส้นทางที่วาดใหม่เพื่อให้ hatch หรือ fills

กล่าวโดยสรุป ฟีเจอร์การปรับปรุง HATCH นี้ช่วยให้งานกับรูปร่างของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถลองใช้งานได้ใน AutoCAD 2025 ค่ะ

AutoCAD 2025 is now available

Activity Insights

ฟีเจอร์ Activity Insights ที่เปิดตัวครั้งแรกใน AutoCAD 2024 ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นใน AutoCAD 2025

ฟีเจอร์นี้ช่วยติดตามการเปลี่ยนแปลงของแบบของคุณ บันทึกกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในไฟล์ และสามารถกรองข้อมูลเหล่านั้นตามประเภทกิจกรรม, ผู้ใช้ และวันที่

สรุปความสามารถฟีเจอร์ Activity Insights

– บันทึกกิจกรรมประเภทต่างๆ มากขึ้น เช่น จำนวนและประเภทของวัตถุที่ถูกลบไป

– แผงควบคุม Activity Properties แสดงข้อมูลรายละเอียดของแต่ละกิจกรรม

– DWG History ถูกจัดการเข้ากับ Activity Insights เวอร์ชันใหม่ของไฟล์จะถูกบันทึกเป็นกิจกรรมประเภท Version ช่วยให้คุณเปรียบ

– เทียบความแตกต่างระหว่างเวอร์ชันปัจจุบันและเวอร์ชันก่อนหน้าได้ง่ายดาย

– ดูประวัติกิจกรรมของแบบได้โดยไม่ต้องเปิดไฟล์นั้น เพียงแค่คลิกที่ Recent เลือกแบบของคุณ จากนั้นเลือก View Activity Insights

คำสั่งใหม่

– ACTIVITYINSIGHTSOPEN: เปิดแผงควบคุม Activity Insights

คำสั่งที่ยกเลิกการใช้งาน

– DWGHISTORY, DWGHISTORYCLOSE: ฟังก์ชันเหล่านี้ถูกรวมเข้ากับคำสั่ง ACTIVITYINSIGHTSOPEN

ตัวแปรระบบใหม่

– ACTIVITYINSIGHTSSUPPORT: เปิดหรือปิดใช้งานฟีเจอร์ Activity Insights

ตัวแปรระบบที่ยกเลิกการใช้งาน

– DWGHISTORYSTATE: ฟังก์ชันนี้ถูกรวมเข้ากับ ACTIVITYINSIGHTSSTATE

สรุปฟีเจอร์ Activity Insights ที่ปรับปรุงใน AutoCAD 2025 ช่วยให้คุณทำงานกับแบบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงและกู้คืนเวอร์ชันก่อนหน้าได้ง่ายดาย

AutoCAD 2025 is now available

Smart Blocks: Object Detection Tech Preview (What’s New in 2025)

AutoCAD 2025 มาพร้อมกับเทคโนโลยีรุ่นทดลองที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Ai) สแกนหาวัตถุต่าง ๆ จากแบบของคุณ เช่น ประตู หน้าต่าง โต๊ะ โดยระบบจะทำการวิเคราะห์รูปวัตถุที่คล้ายกัน และแนะนำให้บันทึกเป็นบล็อคเพื่อให้คุณสามารถดึงมาใช้ได้สะดวก

While in review mode, the following commands are temporarily blocked:

BEDIT
COMPARE
COUNT
COUNTLIST
PLOT
PUBLISH
REFEDIT
TRACE
XCOMPARE

New Commands

DETECT – Displays the Detection palette and starts object detection.

DETECTCLOSE – Ends the detection review.

DETECTCONVERT – Displays the Convert dialog box, which you can use to convert the highlighted instances into blocks.

DETECTPRIMARY – Specifies the detected instance from which a new block definition is created.

DETECTREMOVE – Removes selected instances from the set.

DETECTREVIEWNEXT – Displays the next set of detected objects.

DETECTREVIEWPREV – Displays the previous set of detected objects.

Civil 3D Training for Stonehenge Co.,Ltd.

เมื่อวันศุกร์ที่ 22 และ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ทาง MTECH มีความยินดีที่จัดคอร์สอบรม Civil 3D ให้แก่บริษัท Stonehenge Co., Ltd, ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทก่อสร้างชั้นนำในประเทศไทย

คอร์สนี้ครอบคลุม ตั้งแต่แนวคิดพื้นฐานไปจนถึงเทคนิคต่าง ๆ ในการใช้งาน ทั้งหมดนี้เพื่อเน้นการเพิ่มความเชี่ยวชาญในการใช้งาน Civil 3D ของผู้เทรน สำหรับการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง

คอร์สนี้ถูกปรับแต่งอย่างครบถ้วนและให้เหมาะสมกับงานของทีม Stonehenge ทำให้ผู้เข้าร่วม สามารถใช้ความรู้ที่เรียนรู้ได้โดยตรงในสถานการณ์จริง

ตลอดการอบรม ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าสนใจและครบครัน และได้รับความรู้และทักษะที่มีค่าซึ่งทำให้พวกเขาสามารถนำไปใช้ในงานของตนเองได้อย่างมั่นใจ

AutoCAD 2025 is now available

Smart Blocks: Search and Convert

ใน AutoCAD ปี 2025 มีการเสนอโซลูชันของบล็อกอัจฉริยะเพื่อให้การออกแบบของผู้ใช้งานเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น

เมื่อคุณเลือกเรขาคณิตที่จะ convert โปรแกรม AutoCAD จะค้นหาและเน้นทุกอินสแตนซ์ของเรขาคณิตเดียวกัน จากนั้นคุณสามารถเลือกที่จะ convert เรขาคณิตที่เลือกและอินสแตนซ์ที่พบเป็นบล็อกได้

เมื่อแปลงเป็นบล็อกที่มีอยู่ คุณสามารถเลือกหลายตัวเลือกได้ เช่น คุณสามารถเลือกบล็อกจากการวาดปัจจุบัน บล็อกที่ใช้ล่าสุด หรือบล็อกที่คล้ายกันในคลังบล็อกของคุณที่ระบุโดยอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่อง

หลังจากเลือกนิยามบล็อกที่มีอยู่ คุณสามารถปรับขนาดและการหมุนเพื่อกำหนดว่านิยามบล็อกที่เลือกจะแทนที่อินสแตนซ์ที่พบอย่างไร

ในกรณีอื่น ๆ คุณสามารถ convert วัตถุต้นฉบับหรืออินสแตนซ์ที่เลือกเป็นบล็อกใหม่ ในกล่องโต้ตอบการ convert กำหนดนิยามบล็อกใหม่โดยระบุชื่อบล็อกและจุดแทรก เริ่มต้นที่จุดแทรกเป็นจุดกึ่งกลางของเรขาคณิตที่เลือก

ความสามารถในการ convert เรขาคณิตที่ซ้ำซ้อนเป็นบล็อกได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดความซ้ำซ้อนในการออกแบบ

คำสั่งใหม่

-BCONVERT > เปิดกล่องโต้ตอบและแปลงเรขาคณิตที่เลือกและอินสแตนซ์เหมือนกันเป็นบล็อก

-BCONVERT > ที่ขั้นสั่งพร้อม, แปลงเอนทิตีที่เลือกและอินสแตนซ์เหมือนกันเป็นบล็อก

ตัวแปรระบบใหม่

-BLOCKEXCLUDECOLOR > กำหนดสีเน้นสำหรับอินสแตนซ์ที่ระบุที่ไม่ควรถูก convert เป็นบล็อก

-BLOCKINCLUDECOLOR > กำหนดสีเน้นสำหรับอินสแตนซ์ที่ระบุที่สามารถ convert เป็นบล็อกได้

-BLOCKTARGETCOLOR > กำหนดสีเน้นสำหรับอินสแตนซ์ที่ระบุที่เป็นที่มาของนิยามบล็อกใหม่

AutoCAD 2025 is now available

ล่าสุด! สำหรับ AutoCAD และ AutoCAD LT 2025 สามารถใช้งานได้แล้ว

MTECH ได้สรุปฟังก์ชั่นคร่าว ๆ มาให้ผู้ใช้งานทุกท่าน

1. Markup Import and Markup Assist ที่สามารถแก้ไข (markup) บนไฟล์ PDF ใน Autodesk Docs เชื่อมต่อสู่ AutoCAD ได้แล้ว

2. Autodesk Assistant สามารถค้นหาข้อมูลและสรุปคำตอบได้แม่นยำยิ่งขึ้นโดยใช้ Generative AI

3. Smart Blocks: Search and Convert สามารถแปลงวัตถุที่มีความซับซ้อนให้รวดเร็วกว่าเดิม

4. Smart Blocks: Object Detection Tech Preview ใน AutoCAD 2025 มาพร้อมกับเทคโนโลยีรุ่นทดลองที่ใช้ AI สแกนหาวัตถุต่างๆ จากแบบของคุณ เช่น ประตู หน้าต่าง โต๊ะ โดยระบบจะทำการวิเคราะห์รูปวัตถุที่คล้ายกันและแนะนำให้บันทึกเป็นบล็อคเพื่อให้คุณสามารถดึงมาใช้ได้สะดวก

5. Activity Insights ฟีเจอร์นี้ช่วยติดตามการเปลี่ยนแปลงของแบบและ กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในไฟล์

6. การปรับปรุงการใช้ Hatches สามารถเลือกระหว่างการสร้างรูปร่างที่เต็มหรือการใส่ hatch ตามเส้นทางที่ระบุโดยใช้ตัวเลือกวาด polyline, circle, หรือ rectangle

7. Esri Maps ใน AutoCAD 2025 ฟีเจอร์ “Set Location” ช่วยให้คุณระบุตำแหน่งทางภูมิศาสตร์บนไฟล์แบบ (DWG) ได้อย่างแม่นยำ

8. Trace ช่วยให้คุณทำงานกับแบบอ้างอิง (Reference Drawings) ได้อย่างสะดวกขึ้น

รายละเอียดเพิ่มเติม ทาง MTECH จะค่อยๆทยอยลงเรื่อย ๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน

SketchUp Flash Sale ลดสูงสุด 10%

ลดกระหน่ำ ต้อนรับซัมเมอร์

เมื่อซื้อ SketchUp รายปี ลดสูงสุด 10%

เงื่อนไขโปรโมชั่น

SketchUp Pro ราย 1ปี ซื้อ 1 License ลด 5% จากราคาปกติ 13,200 บาท เหลือ 12,540 บาท
SketchUp Pro ราย 1ปี ซื้อ 2 License ขึ้นไป ลด 10% จากราคาปกติ 13,200 บาท เหลือ 11,880 บาท
เฉพาะ New License แบบราย 1 ปี เท่านั้น

ระยะเวลาโปรโมชั่น วันนี้ – 28 มีนาคม 2024

ซื้อ Autodesk Product เพิ่ม แต่ใน User Management ไม่เพิ่ม? แก้ไขได้ง่ายๆ ดังนี้

1. ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Contact Email เท่านั้น:

ไปที่ https://manage.autodesk.com/
ใส่ Contact Email ที่ใช้ซื้อ Autodesk Product
คลิก “ลงชื่อเข้าใช้”

2. ไปที่ User Management > By Product:

คลิกเมนู “User Management”
เลือก “By Product”

3. ค้นหาแท็บสีเหลืองแจ้งเตือนดัง

แท็บสีเหลืองจะแสดงจำนวน Product ที่ซื้อเพิ่ม แต่ยังไม่ได้ Assign ทีม
คลิกแท็บสีเหลือง

4. คลิก “Assign” เพื่อ Assign Product ให้ “Team”

เลือก Product ที่ต้องการ Assign
เลือก “Team” ที่ต้องการ Assign Product

4.1 กรณีเลือก Assign Product ให้ Team เดิมที่มีอยู่:

เลือก “Team” จากรายการ Dropdown
คลิก “Assign”

4.2 กรณีเลือก Assign Product ให้ Team ใหม่:

เลือก “Create team”
ใส่ชื่อ “Team” ใหม่
เลือก “Assign”

5. ตรวจสอบการ Assign Product:

ตรวจสอบว่า Product ได้ถูก Assign ให้กับ “Team” ที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว

หมายเหตุ:

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ใช้ที่ต้องการใช้ Product ได้อยู่ใน “Team” ที่ Assign Product
ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Product ได้หลังจาก Assign Product เรียบร้อยแล้ว

Digital Twin: แนวคิดสำคัญต่ออุตสาหกรรมสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้าง

แนวคิด Digital Twin

“Digital twin” เป็นหนึ่งในคำศัพท์ที่ได้รับความนิยมในวงการเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้าง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลาย แต่แนวคิดนี้จริง ๆ แล้วคืออะไรบ้าง มีขั้นตอนอะไรที่ต้องทำเพื่อให้ได้มา และมีความท้าทายอะไรบ้าง?

Digital Twin คือ ฝาแฝดดิจิทัล ซึ่งมีความหมายคือ รูปแบบดิจิตอลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างใกล้เคียงกับสิ่งของหรือกระบวนการในโลกจริง โดยเราสามารถใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างซอฟต์แวร์หรือโมเดลที่แทนสิ่งของหรือระบบจริงได้ เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์ ทดสอบ และจำลองการทำงานของสิ่งของหรือระบบนั้น ๆ ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ โดยไม่ต้องมีผลกระทบกับสิ่งของหรือระบบจริง นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลที่ได้จากการใช้งานของสิ่งของหรือระบบจริงมาวิเคราะห์และปรับปรุงในเวลาที่จำเป็นได้อีกด้วย

การทำงานของ Digital Twin มักเริ่มต้นด้วยการสร้างรูปแบบที่แม่นยำของระบบที่ต้องการจำลอง โดยใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์หรือระบบต่าง ๆ ในการสร้างภาพลักษณ์ที่สะท้อนสภาพจริงของระบบนั้น ๆ ด้วยความแม่นยำที่สูง จากนั้น Digital Twin จะทำงานโดยต่อเนื่องโดยรับข้อมูลและการอัปเดตจากระบบจริงอยู่เสมอ ทำให้สามารถปรับปรุงและประเมินสถานะของระบบได้อย่างทันท่วงที

เทคโนโลยี Digital Twin เป็นการก้าวหน้าที่สำคัญในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยมีการให้บริการรูปจำลองเสมือนจริงของทรัพยากรหรือระบบที่มีจริง ซึ่งการใช้เทคโนโลยี Digital Twin มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการออกแบบ ดำเนินงาน และบริหารจัดการทรัพยากรในอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้แนวคิดนี้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรม และความสำเร็จในอนาคต การที่เทคโนโลยี Digital Twin ยังคงพัฒนาต่อไป องค์กรต่าง ๆ ควรยอมรับ Digital Twin ให้เป็นเครื่องมือกลยุทธ์ที่จะช่วยในการสร้างนวัตกรรม และความสำเร็จในอนาคต

Link eBook: eBook Digital Twin

Link PDF: Digital Twin – MTECH [PDF]